================================================== -->
คู่ที่ 2 เป็นนางเอกอยู่รังเดียวกันแท้ๆ แต่กลับมาผิดใจกันเพราะผู้ชายคนเดียว ถึงได้ออกอาการเกาเหลากันนอกหน้านอกตา หลังจากที่ น้องยาน ออกประกาศตัวว่าเป็นเพื่อนซี้กับ นางเอกหน้าขาว ไปได้ไม่นาน เหมือนจะกลายเป็นเพื่อนซี้คู่ใหม่เอี่ยม แต่ทำไปทำมาคู่นี้ก็ไม่พูดกันซะดื้อๆ พอมีคนถามก็ได้แต่บอกว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ โดยเฉพาะ นางเอกหน้าขาว ชอบบอยคอตปลุกกระแสเพื่อนๆ ร่วมก๊วนไม่ให้ร่วมวงศาคณาญาติกับ น้องยาน อีกเลย แต่วีรกรรมของ น้องยาน ก็ใช่ย่อย ชีนิสัยเสียชอบละม้ายชายตาอ่อย ปั๋วเพื่อน ให้มาติดกับ แล้วก็แอบจกแฟนชาวบ้านไปนอนกกนอนกอดอีกตะหาก เพื่อนๆ ที่หลงกลโง่ก็โดนชีซิวไป นอนจ้ำจี้ ซะงั้น ส่วน นางเอกหน้าขาว ก็ใช่ย่อยตั้งแต่เลิกกับแฟนหนุ่ม ดีกรีความแหล ก็บรรเจิดระเบิดแทบทะลักออกมาให้ได้เห็นไม่เว้นวัน คราวหน้า นังชะนีหน้าดำ ขออาสามา ฉีกหน้ากาก ด้วยตัวเองก็แล้วกัน
มีคนมองว่าที่เลื่อนเพราะแม่จั่นไม่ชอบพี่คริต ไม่จริง แม่จั่นชอบพี่คริตนะ พี่เค้ามีอะไรก็จะเข้าหาคุณแม่ ไม่มีอะไร นี่ก็ถ่ายละคร 7 วันเต็ม พี่เค้าก็เหมือนกัน เจอกันก็แค่ในกองละครนี่แหละ ที่เราคุยกันการประกาศหมั้นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ คนอาจมองพี่เค้าเจ้าชู้ พี่เค้าก็เลยแสดงความบริสุทธิ์ใจที่คบกับเรา จั่นเมื่อคบใครก็บอกไม่ปิดอยู่แล้ว
โพสต์บล็อกทั้งหมด(240)
การจำแนกประเภท: Dahewang
slotเกม,เรื่องงานผ่านไปมาถามถึงเรื่องหัวใจกับหลานนักการเมืองคนดังดีกว่าซึ่งนักร้องสาวร่างเล็กแต่เซ็กซี่ ตอบว่า"ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม หนูไม่อยากออกมาบอกว่า คนนั้น คนนี้แฟนหนู เพราะเดี๋ยวถ้าเลิกกัน หรือทุกอย่างเปลี่ยนไปคนก็จะมองไม่ดี หนูอยากให้หนูมั่นใจ คนรอบข้างมั่นใจก่อน แต่ตอนนี้มันยังไม่มีอะไรขนาดนั้นตอนนี้เรื่องแฟน ไม่ใช่เรื่องแรกที่หนูจะคิด แต่ถามว่าอยากมีไหม ก็อยากมี แล้วถ้ามีก็จะบอก หนูอายุ 22-23 ปีแล้ว ถ้าจะมีแฟนคงไม่เป็นไร แต่ที่ไม่บอก เพราะยังไม่แน่ใจ ถามว่า หลายคนมองว่าหนูเจ้าชู้ ให้เขาไปถามใครก็ได้ที่รู้จักหนู จะรู้ว่าหนูไม่เจ้าชู้ที่สุดแล้ว หนูไม่ชอบคนนั้นที คนนี้ที พี่คนที่เป็นข่าวด้วยก็รู้จักกันมา 2-3 ปีแล้ว แต่เรื่องแบบนี้คงไม่ได้อยู่ที่หนูคนเดียว" นักร้องค่ายอาร์เอส กล่าวสรุปตั๊กจูบกับเดย์ จริงหรอ ??"ตั๊กงงมาก ทำไมลงข่าวอย่างนั้น มันไม่ได้มีภาพจูบ เขาเขียนสะเปะสะปะ เห็นตั๊กเป็นอะไร พาดหัวข่าวแรงมาก แต่ข้างในเขียนว่ามีคนเห็นมา ตั๊กอยากให้เขาให้เกียรติกันบ้าง" สาวเซ็กซี่อกตู้ม "ตั๊ก"บงกช คงมาลัย เปิดใจ ถึงข่าวที่ว่าจูบปากกับหนุ่มคนใหม่ "เดย์" แห่งวง "ไทเทเนี่ยม" จนปากเจ่อ"ตั๊กเองไม่อยากมีเรื่อง แต่อยากให้เข้าใจหน่อยว่า อนาคตของตั๊ก คราวนั้นหมายถึงภาพที่จูบกับจอนนี่(อันวา) ตั๊กรับผิดไปแล้ว ตั๊กทำจริงเพราะมีภาพ แต่ครั้งนี้ ตั๊กไม่ได้ทำซ้ำสอง เขียนข่าวอย่างนี้แกล้งกันหรือเปล่า เพราะเสี่ยบอกตั๊กว่า ถ้าทำซ้ำสองจะไล่ตั๊กออก"ข่าวออกมาเยอะซีเรียสมั้ย ?ไม่ค่ะ เราก็รู้อยู่แล้ว ว่านักข่าวมารุมก็ต้องมีพูดกันไปอีกสองอาทิตย์ ก็ไม่ซีเรียสที่จะพูดกันไป เดี๋ยวก็หยุดไปเอง สวยขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนี้ ต้องมีหนุ่มเทียวขายขนมจีบชัวร์ เลย ! ให้พูดไงดี ก็มีเข้ามาจีบเยอะเหมือนกันนะ แต่เดียเองไม่ได้ สนใจใคร หรือว่ามองใครเป็นพิเศษค่ะ ในตอนนี้บางคนมายืนเฝ้าที่หน้าบ้านก็ยังมีเลยนะ หรือว่าเอาขนมเข้ามาฝากไว้กับคุณแม่แบบนี้ก็มีมา เยอะ บางคนเขียนเป็นจดหมายรักมาก็มีค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี บางคนนี่เขียนมาหวานสุด ๆ อ่านแล้วอินตาม เรื่องรักตอนนี้แค่มองแบบผ่าน ๆ ตอนนี้ขอมุ่งเรื่องการทำงานเพลงก่อน อยากที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองสักครั้ง การที่มีคนเข้ามาให้ความสนใจ เดียก็รู้สึกดีมาก ๆ แล้ว ล่าสุดแว่ว ๆ ว่าถึงขนาดมีหนุ่มจากแดนปลาดิบมาเฝ้าถึงหน้าบ้านเชียวนะเนี่ย... มาแบบแปลก ๆ ก็มีมาเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้เองมีแฟนเพลงชาวญี่ปุ่นมายืนที่หน้าบ้านตั้งแต่เช้าเลย แต่วันนั้นเดียเองออกไปงานตั้งแต่ตี 5 เดียกลับเข้ามาที่บ้านอีกทีตอนเกือบเที่ยงคืน เค้าก็วิ่งเข้ามายื่นดอกไม้ให้กับเรา แล้วพูดภาษาญี่ปุ่น เดียเองจำไม่ได้ว่าเค้าพูดอะไร ฟังไม่ทันเหมือนกัน แล้วเค้าก็ส่งดอกไม้ให้เสร็จ เค้าก็วิ่งหนีไปเลย เราเองยืนงงอยู่พักใหญ่ แล้วเค้า ก็วิ่งกลับมาขอถ่ายรูปด้วย หลังจากนั้นเดียกลับเข้าไปในบ้าน คุณแม่ก็บอกว่าเห็นมายืนตั้งแต่เช้าแล้วไม่ไปไหนเลย แต่ถ้าเด็ดสุด ๆ เป็นเรื่องที่แฟนเพลงมายืนขวางรถที่เดียขับค่ะ ไม่ยอมให้เราขับรถออกไป แล้วตะโกนบอกว่าผมรักคุณหน้าบ้าน เราเองอึ้งไปเหมือนกัน เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครเข้ามาทำอะไรกับเดียแบบนี้ คุณแม่รีบวิ่งออกมาดู เรื่องนี้โดนที่บ้านแซวไปหลายวันเลยค่ะ
จากนั้นมาได้ยาดีจากหนุ่มดีเจไฮโซ ท็อป-ณัฐ-เศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี แต่รักครั้งนี้ ดีแป๊บเดียวก็เหลือแค่รอยอดีต ใครลองขานชื่อ คนรักเก่าคนนี้ เมื่อใด พลอย จะ ฟิวส์ขาด ณ บัดนั้น! เธอเคยลั่นวาจาเด็ดเจ็บ แสบไปถึงทรวงว่า อยากเหยียบให้จมดินคิดว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้วหรือยัง ใช้ชีวิตคุ้....ม มาตั้งนานแล้วครับ คุ้มแล้วครับ 10ปีจากนี้นี่ตั้งเป้าอะไรไว้ไหม อยากเห็นตัวเองอยู่ที่เชียงใหม่ แล้วก็มีสตูดิโอ แล้วก็วาดรูปแบบว่า ด้วยความสุขโดยไม่ไปเป็นหนี้เป็นสินใคร ไม่คิดว่าตัวเองต้องการอะไร หรือขาดอะไรไป ตอนนี้ชีวิตผมค่อนข้างเสถียรครับ ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก ผมพอใจกับการที่ไม่เจ็บไม่ป่วย มีทีมงาน 5 ชีวิตของบ.พอดีพานิช ทำการค้าพานิชอย่างพอดี ซึ่งงานบ.ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกครับ นอกจากเราก็ทำหนังสืออะดมของเรา รายปี (หัวเราะ) ทำไปแล้วก็ทำ....ทำอะไรบางเนี่ยะก็ไม่เห็นทำอะไร ก็อยู่เป็นเพื่อนกันไป ช่วยกันกินเงินเดือน(หัวเราะ) ที่รักใคร่เราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ผมก็มีความสุขจริงๆ นะ มันก็ไม่ได้สุขล้นอย่างที่ผมพูดหรอกนะ ผมพอใจกับมัน พอรู้สึกพอใจกับมันขนาดนี้กำลังดี เราก็อย่าไปทะเยอทะยานอะไรที่เป็นหนี้เป็นสิ้น อย่าไปผ่อนโน่นผ่อนนี้ แต่พอผมเริ่มรู้สึกไม่พอเท่าไหร่ อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากได้รถใหม่ บ้านใหญ่กว่านี้ เพราะบ้านก็มีหลังเล็กๆอยู่แล้ว นั่นแหละผมก็จะเริ่มไม่สุขแล้วหละ อยู่อย่างพอใจซึ่งมันไม่เหมือนกับวัยหนุ่มที่เราอยากพิสูจน์ตัวเองเหลือเกิน ด้วยความพลุ่งพล่าน เราอยากทำโน่นนี่ออกมา มันผ่านช่วงนั่นไปแล้ว แล้วเราก็รู้สึกพอใจที่มันเป็นอย่างนี้ ซึ่งวันหนึ่งถ้ามันจะได้ไปทำอะไร ตอนนี้ทีมงานก็กดดันให้เราช่วยไปหารายได้เข้าบริษัทหน่อย ไปทำเดี่ยว ไปทำอะไรซะบ้าง อย่ามาทำอะไรอาร์ทเอิร์ท เงินทั้งนั้น เปลืองตังค์ มันไม่ได้เป็นตัวทำรายได้ และถ้ามันจะทำเดี่ยว ตอนนั้นเดี่ยวมันก็จะออกมาเองด้วยความไม่ต้องกดดันแบบ..ต้องหิวเงินอะไรอย่างเนี่ยะ ผมก็ได้แต่บอกทีมงานว่าอดทนไปก่อนน้อง ขอทำขยะ(หัวเราะ)ให้มันแบบว่าดูซิ ให้มันไป ขอบ้ากับมันสักตั้งซิมันจะเป็นอย่างไร หนังสือก็เขียนมาแล้ว นักร้องก็เป็นมาแล้ว งานโชว์บนเวทีก็มีมาแล้ว พิธีกรก็ทำมาแล้ว รู้สึกว่างานศิลปะกับภาพยนตร์สำหรับโน้ตอุดมกำลังจะมา คือตอนนี้สำหรับผมรู้สึกว่าการแสดงหนังสนุกดีนะ พอได้ไปทำงานกับกองถ่ายที่ดีๆบรรยากาศกองถ่ายมีเสน่ห์ชวนหลงใหลจริงๆ การได้มีเพื่อนร่วมงาน การได้ไปเจอเพื่อนร่วมงานสนุกๆพูดคุยกันแลกเปลี่ยนทัศนคติ และการได้ยืนต่อหน้ากล้อง ได้แสดงอะไรหลังเสียงตีเสลดเนี่ยะท่ามกลางความกดดันและต้องแสดงออกมาให้ได้ ผมคิดว่าช่างเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆสำหรับตัวเรา มันเครียดนะเว้ย คน20-30 คนรอคุณอยู่ ต้องยืนไม่ผิดไปจากมาร์กตรงนั้น แต่ต้องแสดงอารมณ์นั้นออกมาให้ได้ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่สนุกจังเลย (แววตาและการเล่าเต็มไปด้วยรอยยิ้มมาก ๆ) มีคนมองว่าที่เลื่อนเพราะแม่จั่นไม่ชอบพี่คริต ไม่จริง แม่จั่นชอบพี่คริตนะ พี่เค้ามีอะไรก็จะเข้าหาคุณแม่ ไม่มีอะไร นี่ก็ถ่ายละคร 7 วันเต็ม พี่เค้าก็เหมือนกัน เจอกันก็แค่ในกองละครนี่แหละ ที่เราคุยกันการประกาศหมั้นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ คนอาจมองพี่เค้าเจ้าชู้ พี่เค้าก็เลยแสดงความบริสุทธิ์ใจที่คบกับเรา จั่นเมื่อคบใครก็บอกไม่ปิดอยู่แล้วToggle navigationด่วนดาราดาราไทยรูปดาราไทยหลุดๆวงการบันเทิง ดารา ปาปารัสซี่ : ดารานานาชาติgossip ดารา : แนะนำ พรีวิว หนังดัง : เรื่องย่อ ละครฮิต: ดาราเกาหลีดาราปุ่นดาราจีนhotเดอะเฟส 3ข่าวหน้า1ข่าวการเมืองข่าวอาชญากรรมข่าวแปลกข่าวอื่นๆข่าวรอบโลกภัยพิบัติธุรกิจมีเนื้อหารุนแรงคลิปเด็ดคลิปขำขันข่าว เหตุการณ์ การเมืองคลิปบอลคลิปกีฬาอื่นๆคลิปแปลก มหัศจรรย์ เหลือเชื่อthaimusicอื่นๆเพลงเกาหลีเพลงสากลเพลงอื่นๆละครทีวีคลิปดารา คลิปบันเทิงวาไรตี้ผี สยองขวัญท่องเที่ยวความสวย ความงามตัวอย่างภาพยนตร์เทคโนโลยี ไอทีล้อเลียนหมวดนี้มีภาพประกอบรุนแรง อายุต่ำกว่า18ควรมีผู้ปกครองแนะนำเกมโชว์Like สาระวิทยาศาสตร์อาหารสมองตำนานโลกศาลาธรรมกีฬาsportหงส์แดงลิเวอร์พูล, liverpoolปีศาจแดง แมนยูสิงห์โตน้ำเงิน เชลซีปืนใหญ่อาร์เซนอลกีฬาไทยเทนนิสแมนซิตี้ เรือใบสีฟ้าลาลีกา สเปนไม่หมูความเชื่อผิด ๆ ลดน้ำหนักเผาผลาญไขมันอาหารเพื่อลดความอ้วนเทคโนโลยีกับการลดความอ้วนsix packเรื่องที่ต้องรู้ถ้าจะลดความอ้วนอาหารอาหารมังสวิรัติอาหารเจอาหารจานเดียวอาหารสำหรับเด็กอาหารเช้าจานเด็ดเบเกอรี่อาหารว่างไข่ทำอะไรได้บ้างขนมไทยขนมอื่น ๆสมูทตี้อาหารนานาชาติเครื่องดื่มขนมเค้กกับข้าวอาหารคลีนรถรีวิวรถยนต์พริตตี้ มอเตอร์โชว์ข่าวรถยนต์ส่องรถดารารอบรู้เรื่องรถSocialnewsเป็นข่าวร่วมด้วยช่วยกันโพสของคนดังโพสของดาราถามหาความยุติธรรมโคตรเจ๋งคนดีของสังคมดราม่าการศึกษาเรียนอังกฤษสนุกๆทุนการศึกษาศึกษาต่อต่างประเทศข่าวการศึกษาอื่น ๆTop 10เรื่องลี้ลับมือถือกินและเที่ยวเรื่องผู้หญิงLineFacebookคุณแม่ไอทีบ้านและสวนสุขภาพดูดวงความรักคำคมกระจกร้าว วันเสาร์ ที่ 10 มิถุนายน 2549 เวลา 02:13 น.หลังม่าน เชียร์ ฑิฆัมพร รัก คือกุญแจชีวิต... หน้าแรกTeeNee ที่นี่ดารา ข่าวดารา บันเทิง ดาราไทย หลังม่าน เชียร์ ฑิฆัมพร รัก คือกุญแจชีวิต... TweetCopyคม-ชัด-ลึกจัดว่าเป็นนางเอกวัยใสอันดับต้นๆ ของช่อง 7 สี ก่อนที่จะมีนางเอกวัยละอ่อนค่อยๆ ตบเท้าเข้ามา สำหรับ "เชียร์" ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ซึ่งตอนนี้กำลังมีผลงานละครเรื่อง ชุลมุนวุ่นรัก ออกอากาศทางช่อง 7 สี และล่าสุดไปกว่านั้น นางเอกหน้าใสคนนี้ ได้สลัดภาพสาวห้าวมาขึ้นปกให้ อิน แม็กกาซีน ที่ดูแล้วเซ็กซี่กว่าที่ผ่านมา ว่าแล้ว "คม ชัด ลึก" ไม่พลาดคว้าตัวเชียร์มาพูดคุย เธอหัวเราะเสียงใสพร้อมคุยแบบหมดเปลือกเลยทีเดียวเซ็กซี่สไตล์ "เชียร์" ถือเป็นการถ่ายแบบที่ดูเซ็กซี่ที่สุดเลยหรือเปล่าเนี่ย จริงๆ ตอนแต่งตัว ก็ไม่ได้ดูเซ็กซี่ขนาดนั้น แต่ตอนที่ถ่ายมันหลายอารมณ์มาก อารมณ์เล่นๆ ก็มี คือมีทุกอารมณ์ แต่อยู่ที่พี่เขาเลือกภาพมากกว่า ซึ่งคอนเซ็ปต์ไม่ใช่เน้นเซ็กซี่นะ (หัวเราะ) ภาพลักษณ์เชียร์จะออกเป็นสาวห้าว พอมาถ่ายแบบนี้รู้สึกเคอะเขินไหม มันไม่ได้เขินหรอก เพราะคอนเซ็ปต์พี่เขาค่อนข้างปล่อยให้เราโพสท่าไปเรื่อยๆ แล้วไปเลือก ว่าจะเอาภาพไหนอีกที ตอนถ่ายไม่ได้ดูเซ็กซี่ แต่อาจด้วยมุมของภาพ อารมณ์ของภาพ ประกอบกันหลายๆ ปัจจัย พี่ช่างภาพยังบอกเลยว่า ให้เชียร์โพสท่าเท่ๆ นะ คงขึ้นอยู่กับการเลือกรูป เชียร์ชอบมากๆ เลย ดูแล้วถูกใจมากๆ เคยฮึดอยากจะลุกมาเปลี่ยนสไตล์ตัวเองเป็นสาวเซ็กซี่หรือเปล่า ชีวิตจริงเชียร์เฉยๆ ไม่ถึงกับอยาก มันเรื่อยๆ มากกว่า อย่างไปออกงาน ก็แล้วแต่อารมณ์ อยากแต่งหวานก็แต่ง ส่วนใหญ่เรื่องเลือกชุดจะช่วยกันดูกับคุณแม่ เพราะสายตาของแต่ละคน มองไม่เหมือนกัน เชียร์ก็จะถามจากหลายๆ คน เวลาถูกวิจารณ์ก็ไม่เสียใจ แต่บางชุดมันก็เป็นเชียร์เองที่เลือก หรือบางที ก็เป็นชุดที่ถูกจัดให้ใส่บ้าง ก็แล้วแต่มุมมอง ชุดเดียวกันคนก็มองต่างกันไป คิดอย่างไรที่มีกระแสออกมาว่า ดาราสมัยนี้ถ้าอยากดังต้องแต่งตัวให้เซ็กซี่ เชียร์รู้สึกเฉยๆ มากเลย ตรงนี้เป็นกระแสที่คนพูดเยอะ แต่จริงๆ แล้ว ถามว่าดาราที่เซ็กซี่แล้วมีชื่อเสียง เขาเซ็กซี่อย่างเดียวหรือเปล่า เชียร์ว่าไม่นะ เขาก็มีความสามารถด้วย แต่ด้วยภาพที่เซ็กซี่คนเลยมองว่าเขากล้า เลยทำให้ดัง จริงๆ ไม่เกี่ยวหรอก ต่อให้โชว์หมดตัว ถ้าความสามารถไม่มีก็ขายไม่ได้ เชียร์ว่าขึ้นอยู่กับหลายอย่าง และขึ้นอยู่กับงานมากกว่า บางคนเซ็กซี่ก็เพราะงานที่ทำ ชีวิตจริงก็ไม่เห็นจะเซ็กซี่เลย ดาราช่อง 7 สี ยุคใหม่ก็เปรี้ยวกันทั้งนั้น เชียร์ว่าตัวเองต่างจากคนอื่นๆ ไหม อย่างที่บอกว่าการที่หลายคนบอก ว่าดาราคนอื่นเซ็กซี่ แต่ตัวจริงแล้วเขาอาจจะไม่เซ็กซี่เลย ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องของงาน กับตัวเชียร์ ถ้าถามว่าตัวเองไม่เซ็กซี่ ต่างจากคนอื่นไหม เชียร์ไม่ได้คิดอะไรนะ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเปลี่ยนอะไร อะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ถ้าทำออกมาก็เหมือนฝืนตัวเองเปล่าๆ เพราะไม่ได้ออกมาจากตัวเรา อยากทำอะไรก็ทำ ดีที่สุด ภาพนางเอกวัยใสมีส่วนในการจำกัดการทำงานหรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมหลายๆ อย่างมากกว่า อย่างที่เชียร์เล่นละคร บทห้าวก็มี หวานก็มี มันเป็นเรื่องของการทำงาน เหมือนกับว่าเราต้องเล่นบทบาทนี้ เราก็ต้องทำ อย่างในเรื่องของการแต่งตัว หรือเลิฟซีนก็ต้องคุยกัน ว่าได้แค่ไหน บางครั้งถ้าคาแรคเตอร์ต้องเปรี้ยว เสื้อผ้าก็มีส่วนในการช่วยส่งคาแรคเตอร์นั้นให้ดูสมจริง นางเอกหลายคนเริ่มหันมาเล่นร้ายกันแล้ว เชียร์สนใจบ้างหรือยัง ถ้าความคิดเชียร์ เชียร์อยากเล่นให้ได้หลายบทบาทมากที่สุด เพราะแต่ละบทบาท เราก็จะได้ประสบการณ์ ได้พัฒนาตัวเอง ไม่ย่ำอยู่กับที่ มันก็เป็นสิ่งที่อยากลองเหมือนกัน ถ้าลองได้เล่นเยอะๆ ก็ดีนะ ถามว่าถึงเวลาเล่นร้ายหรือยัง ตรงนี้คงแล้วแต่ผู้ใหญ่มากกว่า เรามาอยู่ตรงนี้เป็นจุดเล็กมากของวงการ เชียร์มองมุมได้ไม่กว้างเท่าผู้ใหญ่หรอก เด็กใหม่ๆ มากขึ้นการแข่งขันสูงขึ้นตามด้วยไหม เอาแค่ความรู้สึกเชียร์นะ ทุกวันนี้ในวงการไม่ว่าจะช่องเดียวกัน หรือต่างช่อง มันมีระบบเป็นพี่เป็นน้องกันมาก เชียร์ว่ามันน่าจะหมดยุคแข่งกันเด่นแข่งกันดังแล้ว เท่าที่รู้จัก สัมผัส ทุกคนน่ารัก ไม่ได้มีปัญหาเลยจริงๆ เชียร์ไม่เคยเจอเหตุการณ์แข่งกันดังด้วย ปริมาณดารามากขึ้นทำให้ปริมาณงานเชียร์ลดลงกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน งานเชียร์ยังคงเรื่อยๆ เชียร์ก็มีเวลาจำกัดที่ต้องทำงานไปด้วย และเรียนไปด้วยเหมือนกัน คือเรื่องเรียนยังคงเป็นเรื่องหลักของเชียร์ แต่งานก็ต้องทำเต็มที่ แบ่งสัดส่วนกันไป ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เตรียมพร้อมกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างไรบ้าง ตอนนี้เพิ่งรู้ตารางเรียน สามารถจัดเวลาเรียนได้ลงตัวแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไร คงต้องดูเปิดเทอมอีกที ว่าจะเหนื่อยมากน้อยแค่ไหน ในส่วนของการปรับตัว เชียร์ถือว่าไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรขนาดนั้น ในเรื่องของการวางตัว เชียร์สบายๆ อยู่แล้ว นอกจอในจอก็เป็นเหมือนกันหมด เชียร์เป็นแบบนี้มานานแล้ว ก่อนเข้าวงการเป็นยังไงก็ยังเป็นแบบนั้น ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลง หนีไม่พ้นเป็นดาราต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ บางทีก็อาจมีบ้างที่รู้สึกแบบนั้น แต่เชียร์ถือว่าเอาน่า ยังไงจะทำอะไรแต่ละอย่าง เราต้องทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว สิ่งที่ทำ ก็ต้องคิดก่อนทำ บางทีอาจจะรู้สึกเกร็งๆ บ้าง แต่คงไม่เยอะ ถ้ามัวแต่มาเกร็ง คงไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เชียร์ก็เป็นเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นนั่นแหละ เรื่องเกรดตั้งเกณฑ์เอาไว้หรือเปล่า ตรงนั้นเชียร์เคยตั้งไว้กับตัวเองเหมือนกัน ว่าอยากได้เกรดเท่านั้นเท่านี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแล้ว เปลี่ยนจากตั้งเกรด มาเป็นตั้งใจดีกว่า เพราะเราตั้งใจแล้ว ผลจะออกมาดีไม่ดี ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าเรามัวแต่ตั้งเป้า พอไม่ได้ก็จะเสียใจเปล่าๆ ซึ่งระบบความคิดนี้เชียร์ได้มาจากครอบครัวด้วย เพราะครอบครัวไม่เคยตั้งเป้า หรือคาดหวังจากเชียร์ว่าต้องให้ได้แบบนั้น ทำแบบนี้ เชียร์เรียนรู้มาจากครอบครัว ว่าถ้าเราจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ต้องไปสนใจ ว่าจะต้องเก่งแบบไหน แบบใคร ขอให้ทำให้ดีที่สุด เรื่องรักของ "เชียร์" แสดงว่าครอบครัวไม่ได้จำกัดเชียร์ในเรื่องของความรักด้วย เรื่องความรักก็ไม่มี ไม่ได้ห้ามด้วย เรื่องความรัก บางคนก็บอกว่าไม่ควรมีในวัยเรียน ซึ่งเชียร์ก็ไม่รู้ ว่าควรมีตอนไหนมันอยู่ที่แต่ละคนมากกว่า คิดว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่การจัดสรรของตัวเอง ว่าเวลานี้ควรหรือไม่ควรทำอะไร ที่บ้านไม่ได้บังคับเลย เขาให้อิสระ แต่จะคอยดูห่างๆ ถ้าเกิดมีอะไรดีไม่ดียังไง ก็จะคอยสอนคอยบอกกันอีกที อย่างตอนนี้เชียร์ไม่มีใครจริงๆ เป็นคนมีชื่อเสียงยิ่งทำให้ต้องระวังตัวในการจะคบหาใครมากขึ้นไหม จริงๆ ตรงนี้ถึงแม้เชียร์ไม่ได้เป็นดารา เชียร์ก็ต้องมองอยู่แล้ว ทุกๆ คนย่อมมีส่วนที่ไม่ดีและดี ย่อมมีส่วนที่เราเคยเห็นและไม่เคยเห็น กับคนที่เราจะเลือกคบหรือรู้จัก เราก็ต้องให้เวลาในการศึกษา เรียนรู้กันก่อน ว่าเป็นยังไง และเชียร์รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้สังคมมันน่ากลัวขึ้นทุกๆ วัน ทำให้เราต้องระวังมากขึ้น หากจะรักใครสักคน อะไรคือเหตุผลแรกที่เชียร์จะเปิดใจให้คนคนนั้น เชียร์จะชอบจากนิสัย เหมือนอย่างเชียร์ค่อนข้างจะเป็นคนเฮฮา ติ๊งต๊อง แต่ในบางทีเราก็มีปัญหา มีมุมเครียดก็ต้องการกำลังใจ ต้องการที่ปรึกษาเหมือนกัน ต้องการคนที่สามารถจะอยู่กับเราได้ ในภาวะที่เรามีทั้งอารมณ์สุขหรือทุกข์ เขาก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเรา แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เจอ และเชียร์ก็ไม่ได้โหยหาด้วย "งาน-เรียน-รัก" เชียร์จัดลำดับความสำคัญให้เรื่องไหนเป็นลำดับแรก สำหรับเชียร์คิดว่าคงเป็นเรื่องรัก รักในที่นี้ความหมายครอบคลุมนะ ไม่ได้รักฉันชู้สาวอย่างเดียว เพราะรักเป็นจุดที่สำคัญของทุกเรื่อง เชียร์มองว่ารักคือหัวใจสำคัญของทุกๆ เรื่อง เพราะหากเรามีรักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานหรือเรียนเราก็สามารถเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ เอ้า!!! สำหรับ "เธอ" แล้ว "รัก" คือทุกสิ่งทุกอย่างเจ้าค่ะ พรสวรรค์ เหลืองอ่อน / เรื่อง อิน แม็กกาซีน / ภาพ
ก่อนหน้านี้:ส่งเงินบาทไทย เคล็ด ลับ บา คา ร่
ต่อไป:all joker in one picture
เท้าเปล่า Zhuofu 2021-04-19
ฤดูใบไม้ผลิ :บทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งในนิตยสาร Gossip ยังได้ถามถึง กัปตันหวานใจตัวจริงว่า ได้เคลียร์ปัญหากันหรือยัง ???ไม่ทราบเหมือนกันว่า พี่เขาทราบข่าวหรือยัง เพราะยังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ ข่าวมันค่อนข้างเร็วมาก และเราก็มีงานหลายที่ด้วย เลยยังไม่ได้คุยกัน ถามว่าจุ๋ยจะคุยกับเขามั้ย ก็คงต้องคุยกัน แต่ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก เพราะไม่ใช่เรื่องจริง และไม่จำเป็นต้องเคลียร์ ถ้าเป็นเรื่องจริงเราถึงเคลียร์ แต่นี่เป็นเรื่องงงๆ และไม่ใช่เราชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ เลยไม่จำเป็นต้องมานั่งเคลียร์อะไร ขอให้ทางอีเอฟเอ็มออกข่าวไปว่าไม่ใช่จะสบายใจกว่า เพราะพี่บอยก็คงมีคนของเขา เดี๋ยวเราจะไปเป็นมือที่สาม จุ๋ยไม่อยากเป็นอีกแล้วส่วนทางพี่เจี๊ยบ (พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์) เรารู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะเคยเล่นละครของกันตนาด้วยกัน และเจอกันได้คุยกันตามงานบ่อย พี่เจี๊ยบเป็นคนน่ารัก เป็นคนตลก วันนี้เขามางานด้วยแต่ยังไม่ได้คุยกันถึงข่าวนี้ เพราะจุ๋ยมาถึงปุ๊บก็อยู่หลังเวที เลยไม่ได้เจอกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องจริงนางเอกวิกหมอชิตกล่าวต่อว่า เป็นสัจธรรมของวงการบันเทิง ที่นักแสดงต้องเจอข่าวเช่นนี้ เธอเลยรู้สึกปลง และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากนักข่าวถามอะไรมาก็ยินดีตอบทุกคำถาม เพราะไม่ได้ประพฤติตัวเช่นนั้นต่อไปจุ๋ยก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม ไม่ได้คิดจะเซฟตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรา ถ้ามันเป็นเราจริง โอเค.ฉันต้องเซฟตัวเองนะ จะไปหาพี่บอยไม่ได้แล้ว แต่นี่ไม่ใช่เราเลยไม่รู้จะเซฟตัวเองไปทำไม จุ๋ยยังไม่รู้เลยว่าคอนโดเขาอยู่ที่ไหน และหน้าตาเขา ตัวจริงเขาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ คอนเสิร์ตเขาจุ๋ยยังไม่เคยไปดูเลยค่ะ
"ไอซ์ห้ามใครคิดอะไรไม่ได้""ตอนแรกก็กังวล เพราะบทใน "ดวงใจปาฏิหาริย์" มันแรง ประกอบกับหนัง "เดอะ กิ๊ก" ที่ไอซ์รับบทเป็นกิ๊กด้วย เข้าฉายช่วงนี้ รวมถึงข่าวของเราก็มีอยู่ด้วย ทุกอย่างมันรุมเร้ามาออกในตอนนี้หมดซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจ" สาว "ไอซ์"อภิษฎา เครือคงคา เปิดใจเมื่อถูกถามถึงข่าวมือที่ 3 ระหว่าง "ต๊อด"ปิติ ภิรมย์ภักดี กับ "นุ่น"วรนุช วงษ์สวรรค์ ซึ่งมาผนวกกับบทบาทที่แสดงในหนังและละครทำให้ภาพดูลบ "อย่างหนัง "เดอะ กิ๊ก" ก็ถ่ายทำกันมานานแล้ว หรือ ละคร "ดวงใจปาฏิหาริย์" ตอนแรกไม่คิดว่าจะถ่ายไปออกไปคิดว่าเป็นละครสต๊อค ถ้าถามว่ามาเล่น "ดวงใจปาฏิหาริย์" กับหนัง "เดอะ กิ๊ก" แล้วมันจะเป็นการตอกย้ำในเรื่องของข่าวที่ออกมาให้แรงขึ้นหรือเปล่า ตอนแรกไอซ์ก็ตกใจว่าทำไมละครกับหนังถึงต้องมาลงในช่วงนี้ มันก็เหมือนเป็นการตอกย้ำกับข่าวเหมือนกัน ซึ่งถ้าคนเชื่อกับบทบาทที่ไอซ์เล่นแล้วไปโยงกับข่าวตรงนี้ ไอซ์ก็ห้ามความคิดของเขาไม่ได้ ไอซ์แค่ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมาให้ดีที่สุด"
Qi Aigong Lu Buchen 2021-04-19 07:52:56
"นาด้า-เบียร์"หลังเกิดเรื่อง เมื่อดาราหนุ่มขาวีนได้สติก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่าตนรู้สึกท้อแท้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสียใจกับข่าวที่ออกมาที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนก่อเรื่องขึ้นเองทั้งหมด ซึ่งอันที่จริงแล้วตนไม่ได้เมาและไม่ได้มีปากเสียงกันถึงขั้นชกต่อย ซ้ำยังบอกด้วยว่ากลุ่มชาวบ้านที่ฮือเข้ามาเหมือนกับจะพยายามฆ่ากันให้ได้เลย ทำให้แฟนสาวของตนขวัญเสียไม่หาย ร้องไห้ตลอดทางที่เดินทางกลับ ดาราหนุ่มบอกเหตุการณ์คราวนี้ทำให้ตนต้องรีบหาเวลาไปบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์อีกด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนุ่มเบียร์มีเรื่องมีราวจนเป็นคดีขึ้นโรงพักอย่างนี้ ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อนครั้งที่เขายังไม่บรรลุนิติภาวะเสียด้วยซ้ำ ก็เคยขึ้นหน้าหน่ง ด้วยข้อหามีกัญชาไว้ครอบครองมาแล้วก่อนจะได้ประกันตัวด้วยเงินจำนวน 30,000 บาท เหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นช่วงกลางเดือน ม.ค. 47 หนุ่มเบียร์กับเพื่อนชายได้ขับรถเก๋งเปิดประทุนในยามวิกาลไปแถวนางเลิ้ง ก่อนจะโดนด่านตำรวจเรียกตรวจ ทันใดนั้นก็มีถุงกระดาษสีน้ำตาลถูกโยนออกมาจากรถของดาราหนุ่ม ตรวจพบว่าเป็นกัญชาแห้งหนัก 10 กรัมแต่ดาราหนุ่มกับเพื่อนก็ให้การปฏิเสธว่ากัญชานั้นไม่ใช่ของพวกตน แม้ว่าตำรวจจะตรวจไม่พบรอยนิ้วมือของทั้งคู่ที่ถุงกระดาษต้นเหตุและขี้บุหรี่ที่ตกอยู่ในรถของดาราหนุ่มจะไม่มีกัญชาผสมอยู่ ถึงกระนั้นด้วยวัยแค่ 18 ปี ชื่อ "เบียร์ สรณัฐ มัสยวานิช" น้องชายต่างมารดาของคาสโนว่า "ฟลุ้ค เกริกพล" ก็ดังกระฉ่อนไปในทางเสียหายด้วยการที่เขาต้องเคยตกเป็นผู้ต้องหาครอบครองและเสพกัญชาไปเรียบร้อย ผ่านไปไม่ถึงปี ก็มีข่าวว่าหนุ่มเบียร์ยั๊วะทีมงานของงาน "ฟรีด้อม เอ็กซ์ตรีม" ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อโปรโมตหนัง "พันธุ์เอ็กซ์สุดคู่สุดขั้ว" ของค่ายแกรมมี่ที่เบียร์ร่วมแสดงด้วย จนถึงขั้นจะกระโดดชกปากกันมาแล้ว ด้วยชนวนเหตุแค่หนุ่มเบียร์ต้องแข่งยิงเพ้นท์บอลกับฝ่ายตรงข้าม ทว่าออกสตาร์ทได้ไม่กี่นาทีหนุ่มเบียร์ก็โดนคู่แข่งยิงไปหลายนัด ทำเอาเจ้าตัวไม่พอใจ เดินไปต่อว่าฝ่ายตรงข้าม และเดินตรงไปหาทีมงานพร้อมกับถอดเสื้อทำท่าว่าจะต่อยปากทีมงาน จนแฟนสาวในขณะนั้นคือ "ออย ชนิตา" ต้องกระโดดห้ามทัพไว้ ถือเป็นเรื่องครึกโครมไม่น้อยเพราะภายในงานเต็มไปด้วยดารา นักร้องและนักข่าวมากมาย แต่หนุ่มเบียร์ก็ยังแสดงอาการก้าวร้าวออกมาได้อย่างไม่สำนึก แถมยังออกมาแก้ข่าวนี้อย่างไม่ลดราวาศอกว่า... "มันเกินไปไม่มีอะไรจะเขียนกันแล้วหรือไง ผมไม่ได้ไปต่อยทีมงานซะหน่อย..." เจ้าตัวกล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียว "แต่ที่ผมถอดเสื้อก็เพราะว่าผมต้องการจะให้เค้าดูแผลที่ผมโดนยิง ผมต้องการให้เค้าเห็นว่านี่ผมห้อเลือดไปทั้งตัว ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ในเมื่อผมมาเพื่อช่วยงาน เงินค่าตัวก็ไม่ได้นี่ผมเป็นนักแสดงนะ ผมเป็นศิลปิน ไม่ใช่สตันท์แมน จะให้มาเจ็บตัวอย่างนี้ได้ไง มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องมาเจ็บตัว" "...ผมก็เลยออกมาคุยกับทีมงานว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเค้าไม่มีเซฟให้ผม ก็แค่นั้นเอง ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปต่อยเค้า แล้วก็ไม่ได้ไปโวยวายใส่ฝ่ายตรงกันข้ามที่ยิงมาโดน ผมไม่ใช่พวกขี้แพ้ชวนตี แต่มันเป็นเรื่องที่ผมไม่ยอมเจ็บตัว" "ที่ผ่านมาผมทุ่มเทกับงานหนังเรื่องนี้มาตลอด เค้าขอคิวผมเมื่อไหร่ผมให้หมด ไม่เคยมีปัญหา แต่พอมีเรื่องแบบนี้มันรู้สึกแย่ ถ้ามาแล้วเจ็บตัวจะมาทำไม สู้อยู่เป็นไฮโซเชิดๆไม่ดีกว่าเหรอ" หลังจากนั้น ข่าวคราวของหนุ่มเบียร์ก็หายไปพักใหญ่ จน ก.ย. ปี 48 ก็ก่อเรื่องจนขึ้นโรงพักอีกรอบ เมื่อเขาขับรถยนต์ชนท้ายรถแท็กซี่ 4 คันรวดแถวซอยนานาแล้วขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป ก่อนที่เจ้าตัวจะแอบเข้าพบพนักงานสอบสวนและยินยอมชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดกับคู่กรณี โดยไม่ได้มีการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ตามที่คู่กรณีตั้งข้อสังเกตว่าดาราหนุ่มอาจจะเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวก็ได้ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าจากการสังเกตไม่พบว่าหนุ่มเบียร์มีอาการเมาสุราแต่อย่างใด!? รอดจากคดี "เมาแล้วขับ" ไปแบบหวุดหวิด ช่วงปลายปี 48 ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากกระแสสังคมว่าไปมีส่วนพัวพันกับกรณีที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง "เต๋า สมชาย เข็มกลัด" ถูกซ้อมเนื่องจากมีเหตุเคืองกันเรื่องแฟนสาวของหนุ่มเบียร์ "นาด้า" ซึ่งมีข่าวว่าถูกนายเต๋าหิ้วเข้าโรงแรม จนเลยเถิดว่าแฟนสาวของเขาเป็นต้นเหตุทำให้ "เต๋า-นัท" บ้านแตกในที่สุด สำหรับเรื่องดังกล่าวนี้หนุ่มเบียร์ออกมาแจงว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกรณีวิวาทที่เกิดขึ้นและไม่รู้จักนายเต๋าเป็นการส่วนตัว... "เรื่องพี่เต๋าโดนซ้อม...จริงเหรอ คนแม่..มั่วมากเลย เต๋า สมชายโดนซ้อมใครจะไปทำเค้าได้ ผมไม่เคยรู้จัก ผมไม่เคยคุยกับเค้าเลย ตอนแรกที่ได้ยินข่าวรู้สึกโกรธมากๆ เลยผมก็ไม่เข้าใจว่าเวลาผมมีข่าวแต่ละเรื่องทำไมมีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้นเลย ตอนทำมิวสิกวีดีโอตอนทำเรื่องดีๆ ไม่เห็นมีใครมาทำข่าวเลย" "...คุณแม่ก็บอกว่าเราต้องยอมรับนะว่าหน้าเราเหมือนคนหาเรื่องรึเปล่า อยู่เฉยๆ หน้าคงกวนตีน...ผมพยายามใจเย็นลงให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วทำงานเยอะด้วย" วีรกรรมทำแสบซ่าเซี้ยวของหนุ่มเลือดร้อนคนนี้ มิใช่มีเพียงแค่เรื่องต่อยตีหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเท่านั้น แต่หนุ่มเบียร์ยังใจกล้าโชว์หวือจูบปากแฟนสาว"นาด้า" กลางแคทวอล์กแฟชั่นโชว์ในงานหนึ่งท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่ตกตะลึงกับภาพดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวกล่าวอย่างอารมณ์ดีถึงเรื่องนี้ว่า... "ก็ให้ทุกคนรู้ว่าเรายังคบกันอยู่นะ ยังรักกันดี...ก็ไม่เป็นไงมันเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนก็ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีใครเห็น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องมีเรื่องแบบนี้ ก็เขินนิดหน่อยแต่ต้องตามเค้าไป" "ที่บ้านก็คงโอเค.คงไม่ว่าอะไรเพราะรู้จักกันอยู่แล้ว คบกันมาปีกว่าแล้ว..." หลายฝ่ายคาดว่าข่าวการชกยาม ชักปืนปลอม ซิ่งพังรถชาวบ้าน ไปจนกระทั่งหวิดทำร้ายเจ้าพนักงานนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของหนุ่มเบียร์ เพราะดูจากอดีตที่ผ่านมา และอัตราเฉลี่ยของการเป็นข่าวแล้วชวนให้หนักใจแทนอนาคตของหนุ่มดาราคนนี้เป็นยิ่งนัก ใครที่เป็นคนใกล้ชิดช่วยกันดูแลหน่อยเร็ว!!
จักรพรรดิซ่งเหรินจง 2021-04-19 07:52:56
เวลาทั้งหมดก็ใช่ว่าจะขายได้เกลี้ยงยังมีเวลาเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับ สถานีมากกว่าผู้จัด เวลาส่วนเหลือ ในธุรกิจสื่อทีวีเรียกว่าการเหลื่อมเวลา..ซึ่งผู้จัดสามารถมาซื้อเวลาที่เหลือต่อจากอสมท.ได้ในราคาส่วนลด 30% เพื่อนำไปขายต่อ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่ายแทบจะทุกรายการของ โมเดิร์นไนน์ เรทติ้งไม่ได้ขี้ไก่ ส่วนใหญ่กระแสดี แต่ทำไมพนักงานอสมท.ไม่สามารถขายเวลาได้หมด มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เลยลุกขึ้นมาตรวจสอบ โดยตั้งกรรมการเป็นเรื่องเป็นราว พอตรวจไปตรวจมาก็พบว่า ไร่ส้มค้างค่าโฆษณาในรายการ คุยคุ้ยข่าว ตั้งแต่เดือนมกราคม 2549-มิถุนายน 2549 เป็นจำนวนเงิน 98 ล้านบาท หักส่วนลดตามสัญญา 30% รวมเป็นเงิน 69 ล้านบาท,สาว "จิ๊บ"ดุสิตา อนุชิตชาญชัย ก็เดินสายทำบุญเหมือนกัน "ปกติชอบทำบุญอยู่แล้ว ที่ทำบ่อยๆ จะเป็นการใส่บาตร ทำสังฆทาน หรือไม่ก็ไปเลี้ยงอาหารเด็กพิการ ซึ่งเวลาที่จิ๊บทำบุญเราไม่เคยเลือกเวลาว่าจะไปทำบุญตอนไหน เราขอทำบุญในช่วงที่เราสะดวกดีกว่า สำหรับสิ่งที่ได้จากการทำบุญแน่นอนว่าพวกเราไม่ได้หวังผลอยู่แล้วว่าต้องได้อะไรจากการทำบุญ สิ่งที่เห็นชัดมากเหมือนกับการปลดปล่อยให้ตัวเองมีสุขค่ะ"ร้ายใส่นางเอกจนโดนเกลียดอยู่ในละคร "แว่วเสียงซึง" แต่ตัวจริง "บิ๋ม"พิชชา อาภากาศ ออกจะใจบุญ "ส่วนใหญ่บิ๋มจะทำบุญที่วัด ถวายสังฆทาน ส่วนการเข้าวัดถือศีลยังไม่มีโอกาสได้ทำ แต่พี่สาวบิ๋มเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัด เค้าจะมาเล่าว่านั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมแล้วรู้สึกสบาย บิ๋มเองก็อยากไปบ้าง ในช่วงเข้าพรรษานี้ที่ตั้งใจไว้ก็คงจะเป็นการงดของมึนเมา และถือศีล ส่วนภาพนางร้ายจริงๆ ก็เป็นเพียงแค่การแสดง ตัวบิ๋มไม่ได้ร้ายอย่างในละคร"สาว "โบว์"เบญจสิริ วัฒนา ได้เพื่อนซี้ใจบุญเหมือนกัน "ช่วงที่มาสนิทกับพี่เปิ้ล(ไอริณ) พี่เค้าได้พาเข้าวัดทำบุญ ถวายสังฆทานบ้าง ไปห่มผ้าพระเจดีย์ที่อยุธยาบ้าง ในช่วงเข้าพรรษานี้ตั้งใจจะไปถือศีลกับพี่เปิ้ล ในก๊วนก็จะมีเพื่อนพี่เปิ้ล และจิ๊ก-จีรภัทร ภาพนางร้ายในละครก็เป็นเพียงการแสดง แต่ตัวตนของโบว์จริงๆ พอโตขึ้นอายุมากขึ้นมีเรื่องไม่สบายใจ มีเรื่องทุกข์ใจ ที่พึ่งของคนไทยเราก็คือศาสนา"。Toggle navigationด่วนดาราดาราไทยรูปดาราไทยหลุดๆวงการบันเทิง ดารา ปาปารัสซี่ : ดารานานาชาติgossip ดารา : แนะนำ พรีวิว หนังดัง : เรื่องย่อ ละครฮิต: ดาราเกาหลีดาราปุ่นดาราจีนhotเดอะเฟส 3ข่าวหน้า1ข่าวการเมืองข่าวอาชญากรรมข่าวแปลกข่าวอื่นๆข่าวรอบโลกภัยพิบัติธุรกิจมีเนื้อหารุนแรงคลิปเด็ดคลิปขำขันข่าว เหตุการณ์ การเมืองคลิปบอลคลิปกีฬาอื่นๆคลิปแปลก มหัศจรรย์ เหลือเชื่อthaimusicอื่นๆเพลงเกาหลีเพลงสากลเพลงอื่นๆละครทีวีคลิปดารา คลิปบันเทิงวาไรตี้ผี สยองขวัญท่องเที่ยวความสวย ความงามตัวอย่างภาพยนตร์เทคโนโลยี ไอทีล้อเลียนหมวดนี้มีภาพประกอบรุนแรง อายุต่ำกว่า18ควรมีผู้ปกครองแนะนำเกมโชว์Like สาระวิทยาศาสตร์อาหารสมองตำนานโลกศาลาธรรมกีฬาsportหงส์แดงลิเวอร์พูล, liverpoolปีศาจแดง แมนยูสิงห์โตน้ำเงิน เชลซีปืนใหญ่อาร์เซนอลกีฬาไทยเทนนิสแมนซิตี้ เรือใบสีฟ้าลาลีกา สเปนไม่หมูความเชื่อผิด ๆ ลดน้ำหนักเผาผลาญไขมันอาหารเพื่อลดความอ้วนเทคโนโลยีกับการลดความอ้วนsix packเรื่องที่ต้องรู้ถ้าจะลดความอ้วนอาหารอาหารมังสวิรัติอาหารเจอาหารจานเดียวอาหารสำหรับเด็กอาหารเช้าจานเด็ดเบเกอรี่อาหารว่างไข่ทำอะไรได้บ้างขนมไทยขนมอื่น ๆสมูทตี้อาหารนานาชาติเครื่องดื่มขนมเค้กกับข้าวอาหารคลีนรถรีวิวรถยนต์พริตตี้ มอเตอร์โชว์ข่าวรถยนต์ส่องรถดารารอบรู้เรื่องรถSocialnewsเป็นข่าวร่วมด้วยช่วยกันโพสของคนดังโพสของดาราถามหาความยุติธรรมโคตรเจ๋งคนดีของสังคมดราม่าการศึกษาเรียนอังกฤษสนุกๆทุนการศึกษาศึกษาต่อต่างประเทศข่าวการศึกษาอื่น ๆTop 10เรื่องลี้ลับมือถือกินและเที่ยวเรื่องผู้หญิงLineFacebookคุณแม่ไอทีบ้านและสวนสุขภาพดูดวงความรักคำคม วันพฤหัสบดี ที่ 20 กรกฎาคม 2549 เวลา 09:40 น.แฉ! วงการบันเทิง โดย tvinsideหน้าแรกTeeNee ที่นี่ดารา ข่าวดารา บันเทิง ดาราไทย แฉ! วงการบันเทิง โดย tvinsideTweetCopyจะรักใครชอบใครไม่มีใครอยากจะไปเข้ายุ่งด้วยหรอก แต่อย่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนก็แล้วกัน ไม่งั้น ด็อกเตอร์เห็ด คนนี้แหละจะแฉทุกกระเบียดนิ้วให้กระฉ่อนวงการกันไปเลย ก็เดี๋ยวนี้คนบันเทิงอยู่ดีๆ ไม่ว่าดี ชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยน อดอยากปากแห้งหรือไงก็ไม่รู้ ถึงอยากกิน กับคนโน้นคนนี้ เห็นแล้วน่าระอาใจจริงๆ 。
ในบทความเมื่อป่าน 2021-04-19 07:52:56
ลงจากรถตู้แดนก็ชวนน้องบัวไปลงนามถวายพระพรก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มารับไปขึ้นรถซาฟารีเพื่อนั่งเที่ยวชมบริเวณรอบๆ สวนสัตว์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 5 พันไร่ จุดแรกที่แวะชมคือ กรงชะนีแก้มขาว ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนชะนีทั่วไปแต่จะมีแก้มเป็นสีขาว ขี้อายนั่งแอบอยู่ในอุโมงค์ ก่อนจะเดินต่อมาที่กรงยีราฟกับนกกระจอกเทศ ,ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม โคจรเข้ามาในวงชีวิตและวงเวียนรักของหนุ่มหล่อ วิลลี่ โดยพบกันในแวดวงแฟชั่น ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของแวดวงแฟชั่นเพราะมองว่าทั้งคู่เป็นคู่รักที่เหมาะสมราว กิ่งทองใบหยก และความรักของ วิลลี่ กับ ลูกเกด ทำท่าว่าจะลงเลยแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เพราะรักครั้งนั้นสาวลูกเกดรักและอยากแต่งงานมากที่สุด แถมกองเชียร์ยังลุ้นกันเต็มที่ โทษฐานที่ หนุ่มวิลลี่ ก็ครองตำแหน่งดาราชาย สุดเซ็กซี่ ในขณะที่ ลูกเกด-เมทินี ก็เป็นเจ้าของตำแหน่งหญิงสาวสุดเซ็กซี่ อยู่เช่นกัน เหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยกก็ไม่ปาน แต่สุดท้ายรักครั้งนี้ก็ต้อง...ทางใครทางมัน เพราะไปกันไม่ได้ ลูกผู้ชายวิลลี่ไม่เคยเปิดใจถึงรักขมครั้งนั้นจวบจนวันนี้ คู่รักตัวจริงของวิลลี่ คือนางแบบก้านยาวสาวปากเซ็กซี่ เยลหลี-เยอราดีน ลี ริคอเดล ที่หลังจากถอนหมั้นกับนายแบบไฮโซทายาทเจ้าของโรงแรมตะวันนารามาด้า หนึ่ง-ปราชัญ โมกขะเวส ก็ไม่เคยมีข่าวกับชายใดอีกเลย ทั้งคู่เจอกันบนเรืออันดามันปริ้นเซส ซึ่งวันนั้นเยลหลีไปเดินแบบ ส่วนวิลลี่ไปเป็นเพื่อนน้องสาว แหม่ม-คัทลียา และต่อมาได้ร่วมงานกันในงานถ่ายแบบให้กับนิตยสารแฟชั่น และเดินแบบแฟชั่นโชว์หลายครั้ง จนความสัมพันธ์พัฒนากลายเป็นความรักในที่สุด 。คาดว่าเร็วๆ นื้ทั้งสองนักร้องหนุ่มคู่กรณี ที่จะต้องไปให้ข้อเท็จจริงกับทางกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งข้อข้องใจของคนไทยทั้งประเทศว่า มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ทั้งสองหนุ่มจำเป็นต้องเอาชื่อเสียงของประเทศไทยไปขายยังต่างบ้านต่างเมืองเช่นนั้น 。
มนุษย์ 2021-04-19 07:52:56
เด็กใหม่ๆ มากขึ้นการแข่งขันสูงขึ้นตามด้วยไหม เอาแค่ความรู้สึกเชียร์นะ ทุกวันนี้ในวงการไม่ว่าจะช่องเดียวกัน หรือต่างช่อง มันมีระบบเป็นพี่เป็นน้องกันมาก เชียร์ว่ามันน่าจะหมดยุคแข่งกันเด่นแข่งกันดังแล้ว เท่าที่รู้จัก สัมผัส ทุกคนน่ารัก ไม่ได้มีปัญหาเลยจริงๆ เชียร์ไม่เคยเจอเหตุการณ์แข่งกันดังด้วย ,ฟีดแบคละคร ?หลายคนจะชอบเพราะว่า ไม่ค่อยเห็นแอนเล่นอะไรแบบนี้ แอน กับ เคน ก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว อีกอย่างเข้าขากันแล้วคนดูชอบเห็นเคนกับแอนตีกัน นักแสดงคนอื่นๆ ก็เล่นดี ทุกอย่างก็เลยลงตัว 。วันแต่งงาน แพ็ท-สุธาสินี กลายเป็นแอนโกยไมค์ไปเลย? เขาเรียกขโมยซีนไงคะ (หัวเราะ) ไม่รู้สิ คงเป็น สัญชาตญาณนะ (หัวเราะ) แต่ พี่เอ-ทินพันธ์ อาจจะอยากตอบคำถามนักข่าวบ้างก็ได้นะ?ไม่หรอกค่ะ เขาตื่นเต้นมาก ช็อกอยู่เลย ไม่ยอมให้เกิด (หัวเราะ) แอนเกิดคนเดียว จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก วันนั้นแอนไปงานอยากจะอวยพรคู่บ่าวสาว มาสัมภาษณ์ แอนเยอะๆเกรงใจบ่าว-สาวเค้า แอนไม่ได้คิดมาก่อน วันนั้นตอบอะไรไปบ้างก็ไม่รู้เพราะช็อกนักข่าว มีการล็อกแอนเลยนะ เล่นล้อมแล้วเอากล้องมาตั้ง เอาขาเกี่ยวไม่ให้ไป อะไรกันเนี่ย ปกติวิ่งหนีได้ แต่วันนั้นหนีไม่ทันจริงๆ แอนกลายเป็นช้างเท้าหน้าไปเลย? แหม! มีเรื่องนี้เรื่องเดียวแหละ เรื่องอื่นไม่เห็นจะเป็นช้างเท้าหน้าเลย คุยๆเรื่องแต่งงานบ้างรึยังล่ะ? ยังไม่เคยคุยเรื่องนี้เลย แอนเพิ่งเรียนจบ เพิ่งเปิดบริษัทอิงลิช ออน ทัวร์ ยุ่งกับตรงนั้นเยอะ แอนเป็นคนเชื่อเรื่องเซ้นส์และสัญชาตญาณ คือผู้หญิงจะรู้เองว่าเมื่อไหร่ ตอนนี้แอนยังยุ่งกับชีวิตมากๆ ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย ขอประคับประคองให้ดีที่สุดจะได้ออกมาดูลงตัวที่สุด เห็นคู่เต๋า-นัท ทำให้ขยาดบ้างมั้ยล่ะ? ไม่ถึงขนาดนั้น แอนก็ตอบเหมือนเดิมว่าไม่เกี่ยวกัน ถามว่าทำให้ระมัดระวังมั้ย คือสังคมเปลี่ยนไปเยอะ ทุกอย่างไม่เหมือนสมัยพ่อแม่เรา แต่แอนเชื่อว่ากระแสสังคมไม่น่าชักจูงให้เราต้องเป็นตามกระแส เราควรมีจุดยืน ควรเอาความคิดเดิมๆ ของพ่อแม่มาปฏิบัติ ชีวิตคู่จะได้มั่นคง ไม่ใช่เลิกง่ายหน่ายเร็ว แอนรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงไม่ควรเปลี่ยนแฟนบ่อย แต่ถ้าผิดพลาดจริงๆ ค่อยว่ากัน แอนมีประสบการณ์จากชีวิตพ่อแม่ แอนเองก็อยากทำให้ออกมาสวยงาม เหมือนกับการใส่เสื้อผ้า ก็ไม่อยากใส่เสื้อผ้าซ้ำคนอื่น เราอยากมีของเราเอง อยากให้รักเราคนเดียว อยู่กับเราคนเดียว เราก็ต้องซื่อสัตย์กับเขาด้วย จะช่วยให้มีปัญหาน้อยลง เป้าหมายชีวิตคืออะไร? ตอนนี้ชีวิตแอนโฟกัสที่รายการ อยากให้บริษัทโตและมั่นคงกว่านี้ แอนอยากมีละครเล่นทุกปี เพราะลมหายใจเข้าออกของแอนคือการเล่นละครเป็นสิ่งที่แอนรักมาก วันไหนไปกองละครแอนมีความสุขมากๆ แฮปปี้มากๆ ชีวิตไม่ขออะไรมากอ้าว!แล้ว ขันหมาก ล่ะ! ไม่คิดจะขอให้ยกมาเร็วๆเรอะ? 。
ฮอนด้า ทาโกะ 2021-04-19 07:52:56
สุดท้าย ศ. ยอมยกธงขาว เพราะทนความคาวของ ป. ไม่ไหว ภ. ก็เลยได้เธอไปครองพอคบกับ ภ. ก็ตกเป็นข่าวใหญ่ ทำให้ น้องป. ไม่กล้าล่อกแล่กแหล่ผู้ชายเหมือนก่อนเก็บกดกัดก้อนเกลือกินผู้ชายคนเดียวอยู่นานร่วมปี นับว่ามีความอดทนมากที่สุดในชีวิตแล้วแต่สันดาน กระสือ อด กินขี้ ไม่ได้เช่นเดียวกับ น้องป. รอโอกาส ภ. เผลอ ก็แอบไปให้ท่ากับนักร้องในค่ายยักษ์ใหญ่ซะงั้นยิ่งได้เพื่อนใหม่เป็น ม. สาวเจ้าชู้ชั้นเซียน น้องป. ก็ยิ่ง แรดกระจายม. กับ ป. เข้าคู่เรื่องผู้ชายได้ดี ใครไปให้ท่าใคร ใครมีผู้ชายมาจีบ ก็รีบรายงานความคืบหน้ากันและกัน แทนที่จะช่วยกันห้ามปราม ต่างคนต่างยุแยงแข่งข้น ฟันไม่เลี้ยง พอละครเรื่องใหม่เปิด ประกบกับ พระเอกณ. นี่ก็ขากระหน่ำซัมเมอร์เซลล์เหมือนกันเหมือน ผีย่อมเห็นผี ณ.กับ น้องป. แค่มองตาก็รู้สันดานกันดีงานนี้ก็เลย จนเซ็กซ์ ติดกันไว เล่นละครกันไม่ทันไรก็นัดกันไป ปรี้ปริ้ด เรียบร้อยสนุกกันแค่ชั่วครั้งชั่วคราว พอนักข่าวระแคะระคาย ทั้งคู่ก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน ปฏิเสธกันให้วุ่นวายว่า เพื่อนร่วมค่ายกันธรรมดา เอ้า ก็แหกตากันไปพอปิดบัญชีกับ พระเอกณ. แล้ว น้องป. ก็หาคู่ขาใหม่ ทีนี้ไปให้ท่านักร้อง พ.แต่กลัวข่าวรั่วไหลไปถึงหูแฟนตัวจริง น้องป. ก็เลยต้อง แอบกิน กันเงียบๆ ,หวานใจของนายเอ็กซ์ "กระแต ศุกภักษร" จะว่าไปแล้วเส้นทางของเธอก่อนจะก้าวเข้าสู่ค่ายสหมงคลฟิล์มฯ ไม่ได้ต่างไปจาก "ตั๊ก บงกช" เท่าใดนัก เพราะคนที่ทำให้เธอมีโอกาสได้โลดแล่นในวงการหนังอย่างเป็นงานเป็นการในช่วงแรกๆ ก็คือ "ปื๊ด ธนิตย์" ที่ส่งงานให้มากมายหลังชนะการประกวดดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ลปี 1999 ไล่ไปตั้งแต่ ขุนแผน, ดงพญาไฟ, คนเล่นของ, จี้ กระทั่งความอึ๋มของเธอไปเข้าตาของผู้กำกับ "พจน์ อานนท์" จนมีโอกาสเป็นนักแสดงในสังกัดสหมงคลฟิล์มในหนังเรื่อง "ไฉไลฯ" นั่นเอง。ที่ผ่านมาพวกเราเอาแต่เล่นดนตรีกันอย่างเดียว ไม่เคยได้มาทำงานอัลบั้มเพลงเต็มรูปแบบๆ นี้เลยครับ ก็เพิ่งจะมารู้ว่าขั้นตอนการทำงานจริงๆ ว่ามีมากกว่าการเล่นดนตรีมากมายเลย ตั้งแต่เริ่มวางแนวทางทั้งหมดของอัลบั้ม เข้าห้องอัด พอเสร็จเป็นอัลบั้มออกมาก็ต้องมีงานโปรโมทตามมา สำหรับพวกเราแล้วรู้สึกสนุก และก็ตื่นเต้นกันมากๆ ครับกับงานทุกอย่าง เพราะนอกจากจะได้ทำสิ่งที่อยากทำกันมาตลอดแล้ว 。